อดีตผู้ที่ได้รับการติดเชื้อ HIV โดยเฉพาะผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่สูงมาก คือแทบจะไม่มีความหวังในการใช้ชีวิตได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป ทำให้ทางการแพทย์มุ่งเน้นเรื่องของการรักษาโรคนี้อย่างต่อเนื่องมานานหลายสิบปี และวิวัฒนาการในปัจจุบันเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับการรักษาผู้ติดเชื้อ HIV ทำให้ผู้ป่วยกลับมามีความหวังอีกครั้ง เพราะถ้าผู้ป่วยสามารถรักษาให้หายได้ก็ไม่ต้องทนดูคลิปโป๊ และสามารถมีเซ็กส์อย่างปลอดภัยได้อีกครั้ง
หากย้อนกลับไปเมื่อสมัย 20 ปีที่แล้วตอนการรักษาการติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยต้องกินยาต้าน HIV ในปริมาณจำนวนมาก ถึงประมาณ 10-20 เมตรต่อวัน ต่อมาได้พัฒนาโดยมีการรวมยา 3 ชนิดเข้าไว้ด้วยกันทำให้ผู้ป่วยกินยาน้อยลงเหลือแค่วันละ 1 เม็ด และพัฒนาให้มีผลข้างเคียงน้อยลง เพราะในอดีตยาที่ใช้รักษามีผลข้างเคียงมากเช่น ท้องเสียคลื่นไส้อาเจียน มีผื่นและแพ้ยา เป็นต้น และต้องทนอยู่กับคลิปโป๊เพราะไม่สามารถมีเซ็กส์อย่างปลอดภัยได้
การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV จะต้องกินยาให้ครบและตรงเวลาเป็นประจำทุกวันปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาและจะต้องกินไปตลอดชีวิต จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน และในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการพัฒนาการรักษาการติดเชื้อ hiv อย่างต่อเนื่องและได้มีการพัฒนายาชนิดฉีดและได้มีการศึกษาวิจัย ผู้ติดเชื้อ HIV มียาต้าน HIV 2 ชนิดพร้อมกันเพื่อที่จะไม่ต้องกินยาทุกวัน ในการฉีด 1 ครั้งจะสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 เดือน และมีการคาดการณ์ว่าเมื่อผลการศึกษาเสร็จสิ้นเรียบร้อยจะได้มีการรับรองให้ใช้ในติดเชื้อ HIV ต่อไป ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV เป็นวิธีที่ดีที่สุดและให้ได้รับการวินิจฉัยเร็ว เพื่อเข้าสู่การรักษาหากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV กลัวรีบจะไปตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีและหากพบว่ามีการติดเชื้อก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที ก็ลดความเสี่ยงที่จะต้องดูคลิปโป๊ไปตลอดชีวิต แต่ที่พบเป็นปัจจุบันก็คือไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อ และเมื่อมาพบแพทย์ก็จะมีอาการที่หนักมากแล้วหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่ยากต่อการรักษา และในผู้ติดเชื้อ HIV ที่ได้ รักษาอยู่แล้วนั้นก็ควรที่จะได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อคลิปโป๊ก็ต้องเร่งรักษาอาการดีขึ้น จะได้เริ่มมีเซ็กซ์ที่ต้องการ
การรักษาการติดเชื้อเอชไอวีให้หายขาด ในปัจจุบัน วงการทางการแพทย์ยังคงอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย อย่างต่อเนื่อง การหายจากการติดเชื้อ HIV นั้น มีเพียงแค่ผู้ป่วยรายเดียวเท่านั้นที่สามารถจะหายได้จริง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงควรได้เข้ารับการตรวจเลือดหาผล การติดเชื้อ HIV เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเร็วและทันท่วงที